ในการปราศรัยที่อุดรธานีเมื่อไม่นานมานี้, คุณทักษิณ ชินวัตร ได้พูดถึงนโยบายสำคัญในอดีตของตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งชี้แนะและวิจารณ์แนวทางการบริหารของรัฐบาลปัจจุบัน การปราศรัยครั้งนี้สร้างความสนใจและกลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงการการเมืองไทย โดยเฉพาะการพูดถึงการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ ทั้งเรื่องของยาเสพติด, ความเท่าเทียมทางสังคม, และการแก้ไขกฎหมายเก่าที่ล้าหลัง
1.การปราศรัยของคุณ ทักษิณ ที่อุดรธานี: การทักทายและนโยบายที่กลับมา
การปราศรัยของคุณทักษิณเริ่มต้นด้วยการทักทายประชาชนในภาษาถิ่นอีสาน ซึ่งช่วยสร้างความสนิทสนมและความใกล้ชิดกับพี่น้องชาวอุดรธานี คุณทักษิณได้กล่าวถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อชาวอุดรธานี พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาชุมชนและการใช้ชีวิตของประชาชนในแต่ละพื้นที่
คุณทักษิณยังได้ยกตัวอย่างนโยบายที่เขาเคยดำเนินการในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน, และ สินค้า OTOP ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนในระดับสูง โดยเขาได้กล่าวว่าไม่เคยละเลยความสำคัญของการพัฒนาประชาชนและเน้นให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินนโยบายเหล่านั้น
2.ทักษิณกับรัฐบาลปัจจุบัน: การพูดถึงนโยบายใหม่และการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ในระหว่างการปราศรัย, คุณทักษิณได้พูดถึง นโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้รับความสนใจในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่านโยบายนี้จะเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของสังคม แต่คุณทักษิณยังตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาลและแนะนำว่าควรมีการพิจารณานโยบายที่สามารถแก้ปัญหาทั้งระบบได้อย่างยั่งยืน
การพูดถึงปัญหายาเสพติดถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คุณทักษิณย้ำในปราศรัย โดยเขาประกาศอย่างมั่นใจว่า “กลับมาแล้ว” และจะร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการที่เขายังคงสนใจในปัญหาของประเทศและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการหาทางออก
3.การวิจารณ์พรรคคู่แข่ง: พรรคประชาชนและกฎหมายเก่า
ทักษิณไม่ได้พูดเพียงแต่เรื่องนโยบายของตนเองเท่านั้น แต่ยังได้วิจารณ์ พรรคประชาชน คู่แข่งทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการเสนอ กฎหมายใหม่ ของพรรคประชาชน ที่ทักษิณมองว่าไม่ควรเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายใหม่ ก่อนที่กฎหมายเดิมที่เป็นปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
ทักษิณได้ยกตัวอย่างถึงปัญหากฎหมายเก่าที่ล้าหลัง ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศและชีวิตของประชาชน เขาเชื่อว่าการแก้ไขกฎหมายเก่าจะช่วยให้ประเทศเดินหน้าได้เร็วขึ้น
4.ลีลาการปราศรัยของคุณทักษิณ: การสร้างความใกล้ชิดและวิสัยทัศน์
ในการปราศรัยครั้งนี้, ลีลาการพูดของคุณทักษิณ ยังคงมีเสน่ห์และเต็มไปด้วยการใช้ภาษาอีสานเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับผู้ฟัง และทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเขาคือ “คนของคนไทย” ที่เข้าใจปัญหาของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
คุณทักษิณมีการใช้ ลีลาการพูดแบบเก่า ที่มีทั้งการย้อนอดีตและการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำงานในอดีต ทำให้เขาดูเหมือนคนที่กลับมาพร้อมกับประสบการณ์และวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.การโต้ตอบจากพรรคประชาชนและธนาธร
หลังจากการปราศรัยของคุณทักษิณ, พรรคประชาชน ได้ออกมาตอบโต้คำพูดของทักษิณ โดยชี้แจงว่าพรรคของตนให้ความสำคัญกับ ความเท่าเทียมทั้งทางฐานะและทางโอกาส โดยไม่เน้นเฉพาะด้านเดียว เห็นได้ว่าพรรคประชาชนพยายามแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในแนวทางการบริหารและการพัฒนาสังคม
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าเขาไม่เคยพูดคุยกับทักษิณเกี่ยวกับ การแก้ไขมาตรา 112 และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เคยเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล พร้อมวิจารณ์ทักษิณว่าแทนที่จะร่วมมือกันในการแก้ไขโครงสร้างของประเทศ กลับเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่มีอยู่
สรุป ทักษิณ
การปราศรัยของทักษิณในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสื่อสารกับประชาชนเท่านั้น แต่ยังมี ผลกระทบทางการเมือง ที่สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ใกล้การเลือกตั้ง ซึ่งการพูดถึงนโยบายเก่าๆ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรคและกองทุนหมู่บ้าน อาจจะทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความใกล้ชิดกับอดีตและความสำเร็จในยุครัฐบาลทักษิณ
ขณะเดียวกัน การวิจารณ์รัฐบาลและพรรคคู่แข่งอย่างพรรคประชาชน และการนำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ ยิ่งทำให้การปราศรัยครั้งนี้เป็นประเด็นที่ต้องจับตามองในวงการการเมืองไทย
แนะนำคอมเมนต์ และความคิดเห็นที่น่าสนใจ
@**: “พรรคประชาชนสู้ๆเรารักพวกท่านค่ะ“
@**: “เเหลี่ยมจัด เหลี่ยมเหมือนรูปหน้าเลย สงสารประชาชนจริงๆ“
@**: “ประชาชนสู้ๆครับ“
@**: “แก้เพื่อใครใครได้ประโยชน“
@**: “เคยใส่เสื้อแดงทักษิณ เจ็บมามากแล้ว“
ไม่มีความเห็น
Hello there, I found your web site via Google while looking for a related topic, your site came up, it looks great. I have bookmarked it in my google bookmarks.
Your comment is awaiting moderation.