1. ดีไซน์และสีสันของ รีวิว Poco C75
Poco C75 มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและทันสมัย ด้านหลังของโทรศัพท์เป็นแบบแฟลต มีการจัดเรียงกล้องในวงกลม พร้อมกล้องหลัก 50MP ที่มีเลนส์ AI เพื่อช่วยปรับแต่งภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น ดีไซน์นี้มีความโดดเด่นด้วยลายหินอ่อนที่มีความเงางาม อีกทั้งยังมีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ สีเขียว และสีทอง ซึ่งสีทองให้ความรู้สึกหรูหราเหมาะกับการใช้งานในทุกสถานการณ์
2. ความสามารถของกล้อง Poco C75
สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับกล้อง Poco C75 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ 1x และ 2x ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพทั้งในสภาพแสงน้อยและแสงปกติ คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน และยังรองรับการถ่ายวิดีโอได้ด้วยถึงแม้จะไม่มีระบบกันสั่นซึ่งอาจจะทำให้ภาพไม่สมบูรณ์ในบางสถานการณ์
3. สเปคและประสิทธิภาพของ Poco C75
Poco C75 ใช้ชิปเซ็ต Helio G81 Ultra ที่รองรับการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปได้อย่างดี โดยผู้ใช้สามารถเลือกเพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 16GB ทำให้การเปิดแอปพลิเคชันหลายๆ ตัวพร้อมกันไม่มีอาการหน่วงหรือช้า ส่วน ROM ก็รองรับได้ถึง 256GB จึงเพียงพอต่อการใช้งานในระยะยาว ส่วนการทดสอบเกม Gen Chin Impact และ PUBG สามารถเล่นได้แม้จะปรับกราฟิกต่ำสุด แต่ยังคงมีกระตุกเล็กน้อยในบางครั้ง
4. ประสิทธิภาพหน้าจอของ Poco C75
หน้าจอของ Poco C75 ขนาดใหญ่ถึง 6.88 นิ้ว พร้อมความละเอียด HD+ และอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz ซึ่งทำให้การเล่นเกม การดูวิดีโอ และการใช้งานทั่วไปทำได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ปลดล็อคด้วย สแกนลายนิ้วมือใต้จอ และการสแกนใบหน้าเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
5. แบตเตอรี่ของ Poco C75
ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,160 มิลลิแอมป์ คุณสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ยาวนานทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูหนัง หรือการท่องเว็บ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดเร็ว สำหรับการชาร์จสามารถทำได้อย่างรวดเร็วด้วยหัวชาร์จ 33 วัตต์ แม้ว่าจะรองรับการชาร์จเพียง 18 วัตต์ก็ตาม
6. อุปกรณ์ในกล่องของ Poco C75
เมื่อเปิดกล่อง Poco C75 คุณจะพบกับอุปกรณ์ครบครัน ซึ่งรวมถึงหัวชาร์จ 33 วัตต์ แม้ว่าโทรศัพท์จะรองรับการชาร์จ 18 วัตต์ แต่การมาพร้อมกับหัวชาร์จ 33 วัตต์ถือเป็นข้อดีที่ทำให้การชาร์จเร็วขึ้นมาก
7. ราคาและความคุ้มค่าของ Poco C75
Poco C75 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 3,190 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB และ ROM 128GB ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับสเปคและคุณสมบัติที่ได้ ส่วนรุ่น RAM 8GB และ ROM 256GB ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,200 บาท โดยราคาพิเศษนี้จะมีเฉพาะช่วงระหว่างวันที่ 10 ถึง 17 พฤศจิกายน เท่านั้น
แนะนำคอมเมนต์ และความคิดเห็นที่น่าสนใจ
@**: “ใช้ส่วนลดละ ได้มาในราคา2175 (6/128) คุ้มสุด“
@**: “ชอบสีเขาจริงตัวนี้ ไม่ซ้ำซาก “
@**: “นี่มัน redmi14c นี่หว่า.“
@**: “ตัวนี้ 4gหรือ5gครับ“