ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาทางประชากรที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยอัตราการเกิดของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้จำนวนคนที่เกิดน้อยกว่าคนที่เสียชีวิตทุกปี ปัญหานี้เกิดจากหลากหลายปัจจัยทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มองว่า การมีลูกไม่ใช่สิ่งจำเป็น และไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทางการเงินและการงาน

สถิติการลดลงของอัตราการเกิดในประเทศไทย

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2019-2023) อัตราการเกิดในประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากประมาณ 600,000 คนในปี 2019 เหลือเพียง 480,000 คนในปี 2023 ขณะที่อัตราการตายกลับเพิ่มขึ้นจากประมาณ 480,000 คนในปี 2019 เป็น 530,000 คนในปี 2023 เมื่อคำนวณเบื้องต้น หากอัตราการตายสูงกว่าอัตราการเกิดในระยะยาว อาจทำให้ประชากรไทยลดลงไปเหลือประมาณ 46 ล้านคนในอีก 60 ปีข้างหน้า ปัญหานี้ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกที่มีสภาพการณ์คล้ายกัน

ปัจจัยหลักที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก ปัจจัยหลักที่มักจะถูกพูดถึงบ่อยครั้งประกอบไปด้วย:

  • ปัจจัยทางเศรษฐกิจ: ค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขาดความมั่นคงทางการงานและการเงิน รวมถึงภาระหนี้สินส่วนบุคคลทำให้คนรุ่นใหม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตการเลี้ยงดูลูก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการดูแลสุขภาพยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการตัดสินใจมีลูก
  • ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม: ค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้การแต่งงานและการมีลูกไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพ การพัฒนาตนเอง และคุณภาพชีวิตมากกว่าการมีบุตร โดยเฉพาะในยุคที่มีบทบาทของผู้หญิงในการทำงานสูงขึ้น ทำให้การมีลูกกลายเป็นภาระที่ต้องคิดหนัก
  • ปัจจัยด้านสุขภาพ: ปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน หรือปัญหาการลดลงของจำนวนสเปิร์มในผู้ชาย ส่งผลให้การมีลูกยากขึ้นกว่าเดิม

ความยากลำบากในการเป็นพ่อแม่ในปัจจุบัน

ในการทำแบบสำรวจเล็กๆ กับทีมงานของรายการ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่มีแผนที่จะมีลูกในตอนนี้ เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าครองชีพที่สูง ความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ และความต้องการพัฒนาตนเองก่อนที่จะมีครอบครัว นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเวลาในการเลี้ยงดูบุตรที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ความอดทน และเงินทุนจำนวนมาก

แนวทางการแก้ไขปัญหาและแรงจูงใจในการมีลูก

รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการสร้างแรงจูงใจในการมีลูกผ่านทางมาตรการทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน เช่น:

  • การให้เงินช่วยเหลือ: ให้เงินช่วยเหลือหรือเงินอุดหนุนในระหว่างการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่
  • การเพิ่มสวัสดิการ: การลาคลอดที่ยาวนานขึ้นและการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดูแลบุตรตั้งแต่การฝากครรภ์ การคลอด และการศึกษาของเด็ก
  • การลดหย่อนภาษี: การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับพ่อแม่ที่มีบุตรและค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตร เช่น การลดหย่อนภาษีสำหรับค่าการศึกษา
  • การดึงดูดแรงงานจากต่างประเทศ: การเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรและกำลังแรงงาน

ความคิดเห็นจากผู้ชมและการร่วมมือแก้ไขปัญหานี้

รายการขอเชิญชวนผู้ชมร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับอายุ ความต้องการมีบุตร และปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพิจารณาในการแก้ไขปัญหานี้และหาทางออกที่ยั่งยืนในการรักษาอัตราการเกิดในประเทศต่อไป

แนะนำคอมเมนต์ และความคิดเห็นที่น่าสนใจ

@**: “การไม่ส่งต่อความยากลำบาก คือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

@**: “ค่าครองชีพสูง คุณภาพชีวิตทำให้ดียาก จบที่ตัวเราดีกว่าสงสารลูก ยอมลำบากตอนแก่ดีกว่าให้ลูกมาลำบากด้วย

@**: “เลี้ยงเด็กสมัยนี้ยาก สิ่งเร้ามันเยอะ ต้องมีเงินซื้อสังคมให้ลูก ต้องมีเวลาในการตามดูแลลูกอีก

@**: “พ่อแม่รุ่นผม เป็นพ่อแม่ที่ไม่มีความพร้อมมีชีวิต อดอด อยากอยาก ความสามรถอบรมสั่งสอนก็มีแต่ความรุนแรง (ผมไม่อยากเป็นพ่อแม่แบบนี้น) ยิ่งยุคนี้เงินคือทุกอย่าง

@**: “อยู่ประเทศแบบนี้ใครเขาจะอยากมีลูก

Share.
Leave A Reply

Exit mobile version